TH TRANS

Marisol Magazine - Special Interview: Born Again

스웩짱기 2020. 8. 8. 00:50

แปลไทยและเรียบเรียง : 스웩짱기 @SWAGJJANGKI

Source : https://marisol.hpplus.jp/article/56766

KR Trans : https://gall.dcinside.com/mgallery/board/view/?id=jangkiyong&no=6527&_rk=urT&page=1

 

(เนื่องจากแปลบทสัมภาษณ์จากภาษาเกาหลี ซึ่งต้นฉบับแปลเกาหลีมีแต่ส่วนของจางกียง เลยแปลตามภาษาเกาหลีนะคะ)

Born Again จะเริ่มออกอากาศที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมนี้แล้ว รู้สึกอย่างไรกันบ้าง?

จางกียง : ทราบแล้วครับว่าละคร Born Again จะได้ออนแอร์ทางช่อง KNTV ของญี่ปุ่น หวังว่าแฟนชาวญี่ปุ่นจะรับชมกันอย่างสนุกสนานครับ และถ้าชื่นชมอีกละก็จะยินดีมากเลยครับ

 

ช่วยแนะนำตัวละครให้ฟังหน่อย?

จางกียง : ในช่วงยุคปี 80 รับบทเป็น กงจีชอล ผู้โดดเดี่ยวอ้างว้างจากผู้เป็นพ่อและโชคชะตา ในยุคปัจจุบัน รับบทเป็น ชอนจงบอม นักศึกษาแพทย์หัวกะทิครับ

อีซูฮยอก : ไหลลื่นเลยนะ เหมือนจำได้เม่นเป๊ะ (หัวเราะ)

 

เหตุผลที่เลือกรับแสดงเรื่องนี้?

จางกียง : ด้วยความที่เป็นละครใน 1 เรื่องสามารถแสดงเป็น 2 ตัวละครได้ เป็นอะไรที่ดึงดูดใจที่สุดครับ แล้วก็คิดว่ามันน่าสนุกทั้งกับความสัมพันธ์ระหว่างกงจีชอลกับพ่อในช่วงต้นเรื่อง การตั้งใจมอบหัวใจของตัวเองให้กับผู้หญิงอันเป็นที่รัก หรือกระทั่งความรู้สึกที่ค่อยๆกลายเป็นรักหญิงสาวคนหนึ่งเข้าครับ ถ้าจางกียงได้แสดง 2 บทนี้จะแสดงออกมาเป็นไงยังนะ ผมเองก็สงสัยตัวเองเหมือนกันครับก็เลยตัดสินใจรับแสดงเรื่องนี้

 

ความรู้สึกเมื่อได้พบกันครั้งแรกของแต่ละคน? หรือระหว่างแสดงร่วมกัน มีอะไรที่อยากจะบอกกันไหม 

จางกียง : สำหรับคุณอีซูฮยอกนั้น ผมรู้จักโดยส่วนตัวมาก่อนนานแล้วครับ เพราะตั้งแต่ที่ฝันอยากเป็นนายแบบ ได้ดูคลิปของคุณอีซูฮยอก และรูปภาพต่างๆ ความฝันนั้นก็ค่อยๆเกิดขึ้นครับ การได้มาร่วมแสดงด้วยกันแบบนี้ สำหรับผมแล้วมันมีความหมายมากเลยครับ ในกองถ่าย ก็ทำงานร่วมกันในฐานะนักแสดงแต่ในความจริงรู้สึกเหลือเชื่อมากครับ ผมฝันมาตลอดว่าจะได้ร่วมงานกับคุณอีซูฮยอก และเพราะในหัวคิดแบบนั้น ผลงาน Born Again นี้จึงมีความหมายมากเลยครับ การได้ร่วมแสดงด้วยกันผมมีความสุขมากๆครับ

 

ความเหมือนและแตกต่างระหว่างตัวตนของตัวเองกับตัวละคร? 

จางกียง : ทั้งตัวผม พี่ซูฮยอกและคุณจินเซยอนด้วยเพราะเป็นครั้งแรกที่แสดง 2 บทบาทใน 1 คน เราได้พยายามหาคำตอบจากในบทละครกันครับ บทส่วนไหนที่อ่านแล้วเข้าใจยากก็จะคุยกับผู้กำกับ และพยายามจะซ้อมให้บ่อยครั้งเพื่อจะได้เข้าใจบทนั้นๆครับ

 

ฉากที่ยังอยู่ในความทรงจำ? 

จางกียง : บทที่จีชอลพูดกับฮาอึนว่า "ฉันจะให้หัวใจฉันแก่เธอเอง" บทนี้คิดว่ามันเป็นอะไรที่เป็นจีชอลมากๆครับ ในหนึ่งคำพูดเป็นความรู้สึกที่อัดแน่นของจีชอลครับ ยังจำได้อยู่ทุกฉากแต่จากทั้งหมดนั้น บทนี้มันประทับใจครับ ฉากสั้นประมาณ 10 วินาทีแต่ฉากนี้เป็นฉากที่อยู่ในความทรงจำครับ

 

สำหรับเนื้อเรื่องนั้นจริงจัง แต่สำหรับผู้ชมนั้นรีวิวว่า "สบายตา"

อีซูฮยอก : ขอบคุณครับ เพราะมีคุณจางกียงครับ

จางกียง : 555555555555

 

สำหรับคุณกียงแล้ว บอกว่าคุณซูฮยอกเป็นการคงอยู่ของการใฝ่ฝันนั้น เมื่อได้ร่วมงานกับคนที่เป็นความฝันแล้วเป็นยังไงบ้าง?

จางกียง : ก็คือว่า...

อีซูฮยอก : ให้ฉันออกไปแปบนึงก่อนมั้ย?

จางกียง : ดีฮะ ช่วยออกไปแปบนึงนะครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็ยังจำได้ครับ ตอนเป็นนักเรียนมัธยมปลาย อายุ 17 ปี มีความสนใจการเป็นนายแบบขึ้นมาครับ เป็นช่วงที่คิดว่าถ้าเป็นผู้ใหญ่เราจะทำอะไรดีนะ ผมเกิดที่ต่างจังหวัดน่ะครับ เพราะตัวสูงเพื่อนๆที่อยู่ในละแวกเดียวกันก็บอกว่า"ลองเป็นนายแบบดูสิ" ตัวผมเองก็คิดด้วยว่า "ลองดีมั้ย" เอาความกระตือรือร้นนั้นมาค้นหาจากในอินเตอร์เน็ตดูครับ และก็ได้ดูคลิปการเดินแบบของพี่ซูฮยอกเหมือนเป็นพรหมลิขิตเลยครับ เพราะมันเท่มากๆ ก็เลยคิดว่า"อันนี้แหละ!" ณ ตอนนั้นก็เกิดเป็นความฝันครับ การใฝ่ฝันที่จะเป็นแบบนักแสดงอีซูฮยอกและก็ได้เอาความฝันนั้นมาครับ จากนั้นเป็นเวลา 10 ปี ก็ได้มาแสดงละครร่วมกันและได้มาร่วมช็อตถ่ายรูปกับคุณซูฮยอกแบบนี้สนุกมากๆเลยครับ! ระหว่างการถ่ายทำก็มีช่วงที่เหน็ดเหนื่อย แต่พี่ซูฮยอกก็ให้ความใส่ใจและตอนที่พี่ซูฮยอกเหนื่อย ผมก็ทำท่าแอ๊บแบ้วน่ารัก หรือไม่ก็คอยแกล้งหยอกล้อครับ

อีซูฮยอก : เมื่อไร? (หัวเราะ)

จางกียง : เหมือนพี่ซูฮยอกจะจำไม่ได้แต่ (หัวเราะ)

อีซูฮยอก : แอ๊บแบ้ว? ถ้าแบบนั้นมันคืออันนั้นก็นะ (หัวเราะ)

จางกียง : ทำแกล้งแอ๊บแบ๊วฮะ (หัวเราะ) ละครของพวกเรามีบรรกาศที่อึมครึมและจริงจัง แต่ในการถ่ายทำเฮฮาสนุกสนานครับ ความสุขที่ได้ช่วยเหลือกันและกัน หยอกล้อกันไปมาเป็นสิ่งที่ยังคงจดจำได้ครับ

อีซูฮยอก : คุณกียงนั้น เป็นนักแสดงที่ดีเยี่ยมอยู่แล้วครับ ได้รับการเสนอให้แสดงอย่างต่อเนื่องและเป็นจุดรวมของกองถ่ายในฐานะที่เป็นตัวเอก แต่ก็ยังคอยพูดขอบคุณและขอโทษอย่างถ่อมตัวครับ ผมเองก็มีจุดที่ได้เรียนรู้และพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันในการถ่ายทำครับ ถึงตัวละครจะมีความขัดแย้งต่อกัน แต่ในกองถ่ายต่างก็ช่วยเหลือกันและกันครับ แม้ความไม่ลงรอยของตัวละครจะรุนแรงแต่ในกองถ่ายคือสนุกสนานครับ

 

พอได้ยินคำพูดในตอนนี้ เหมือนคุณซูฮยอกจะคิดว่าคุณจางกียงเป็น Mood Maker

อีซูฮยอก : ผมเป็น Mood Maker ครับ (หัวเราะ)

จางกียง : เชิญออกไปเลยครับ (หัวเราะ)

อีซูฮยอก : ล้อเล่นครับ (หัวเราะ) ผมพยายามคิดว่าจะไม่แสดงความเหน็ดเหนื่อยออกมา เพราะในทั้ง 3 คนนั้นผมอายุมากสุดครับ Mood Maker ก็เป็นกันทุกคนน่ะครับ ถ่ายทำไปพร้อมกับรอยยิ้มที่มีความสุขครับ

 

ได้ร่วมแสดงกับคุณจินเซยอนด้วย เป็นอย่างไงบ้าง?

จางกียง : ได้แสดงกับคุณจินเซยอนด้วย คาดหวังเรื่องการแสดงน่ะครับ จิตใจดีและร่าเริง เอเนอร์จี้ของนักแสดงจินเซยอน มีเยอะมากๆเลยครับ ตอนที่หลุดจากโฟกัสเพราะเหนื่อยก็ได้เอเนอร์จี้ของคุณเซยอนช่วยไว้ครับ การแสดงก็ดีมากๆเลยด้วย เพราะคุณเซยอน บรรยากาศในกองเลยดีด้วยครับ

อีซูฮยอก : คุณจินเซยอนเป็น Mood Maker ครับ โดยเฉพาะคุณเซยอนจะมีคิวถ่ายทำเยอะมาก แต่ก็ดูไม่เหนื่อยเลยครับ แต่ก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะแสดงออกมาว่าเหนื่อยครับ ในฐานะนักแสดงต้องเรียนรู้ไว้อย่างมากเลยครับ ถ้าเกิดคิวถ่ายคิวไหนมีคุณเซยอนด้วยบรรยากาศก็จะดีขึ้นมาเลยครับ นักแสดงที่เท่และเป็น Mood Maker ก็คือ คุณเซยอน แหละครับ

จางกียง : จริงๆแล้ว ไม่ใช่พวกผม (หัวเราะ) แต่เป็นคุณเซยอนครับ

อีซูฮยอก : ร่าเริงสดใส และระหว่างที่ถ่ายทำด้วยกัน ตัวผมเองก็เกิดความรู้สึกรับผิดชอบขึ้นมาครับ

 

ช่วยพูดถึงฉากเลิฟซีนให้ฟังหน่อย

จางกียง : ในตอนที่ 1-2 บทของจีชอลนั้น แทบไม่มีเลยครับ อาศัยบรรยากาศและแววตาส่งสารไปยังผู้ชม คิดว่าขอบคุณคุณเซยอนที่รับอารมณ์ความรู้สึกอย่างนั้นไปอย่างดีครับ

 

 

การปรับเปลี่ยนบท 2 ตัวละครใน 1 คนมีความราบรื่นดีไหม?

จางกียง : ตอนที่ 1-2 เป็นจีชอล และตอนที่ 3 เรื่องราวของจงบอมจะเริ่มต้นขึ้น แต่ตารางการถ่ายทำ ในหนึ่งวัน การกระทำ ความรู้สึก เสื้อผ้าหน้าผม น้ำเสียงการพูดต้องเปลี่ยนครับ คิดว่าถ้าเตรียมพร้อมมาอย่างละเอียดถี่ถ้วนก็จะสามารถแสดงออกมาได้ดี แต่ตอนที่ใส่โค้ดของจงบอมและถ่ายทำเป็นครั้งแรกก็ยากครับ ได้รับความช่วยเหลือจากผู้กำกับและทีมงานในระหว่างถ่ายทำไปครับ

 

ในช่วงแรกคุณกียงต้องแสดงและใส่วิกด้วย ให้คะแนนตัวเองเท่าไร?

จางกียง : ในละคร ในความเป็นนักแสดง การสวมวิกเป็นประสบการณ์ที่น่าสนุกครับ สำหรับผู้ชมเป็นสิ่งน่าตกใจเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นแต่สำหรับการได้รับคำวิจารณ์ภาพลักษณ์นี้ตัวผมเองรู้สึกดีครับ คิดว่าที่ได้เผยให้เห็นกันเป็นครั้งแรก คิดว่าน่าจะสนุกนะครับเพราะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์นอกจากจีชอลมาเป็นจงบอมนะครับ

 

สำหรับคุณกียง ตัวละครทั้งจีชอล/จงบอม ล้วนเป็นเหมือนอยู่ในเงา มีความรู้สึกเห็นใจบ้างใช่มั้ย?

จางกียง : มากกว่าการเห็นใจ ความเป็นนักแสดงนั้น จะเป็นจีชอลหรือจงบอมต่างก็ต้องทำหน้าที่แสดงความเป็นตัวละครที่อยู่กับความเศร้า "ถ้าฉันเป็นจีชอล เป็นจงบอม จะทำยังไงนะ" จะคิดจินตรานาการแบบนั้นบ่อยครับ ตอนที่คิดแก้ไขคนเดียวไม่ได้ ก็จะถามผู้กำกับและผู้เขียนบทครับ เหตุผลที่ชอบละครประเภทนี้ก็เพราะว่ามันไม่มีคำตอบที่ถูกต้องครับ ในจินตนาการแสดงออกมา ผมเองก็ไม่มีคำตอบ ผู้ชมก็น่าจะไม่มีคำตอบด้วย คิดว่าเป็นหน้าที่ที่สร้างขึ้นมาด้วยกันกับผู้กำกับและผู้เขียนบทครับ อันนี้คิดว่าเป็นสิ่งที่สนุกของอาชีพนักแสดงครับ

 

ละครเรื่องนี้ได้ให้อะไรกับคุณ?

จางกียง : การที่ได้แสดงร่วมกับพี่ซูฮยอกมีความหมายกับผมมากครับ สำหรับผมนั้น มากกว่าการแสดงภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากผลงานทั้งหมดแล้ว ด้วยเพราะอาชีพที่ต้องแสดงออกของนักแสดง นักแสดงที่ชื่อจางกียง ในละคร "Born Again" แบบนี้ก็แสดงได้ด้วย อยากจะแสดงความสามารถในช่วงอายุ 20 ปีทำได้ครับ โชว์การใส่วิกและเป็นแนวโรคจิตไซโครพาธ์ และก็โชคดีที่สามารถจบการถ่ายทำไปได้อย่างไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เป็นผลงานที่ในฐานะนักแสดง ได้เรียนรู้มากมายและอยู่ในความทรงจำอย่างมากครับ

 

ช่วยบอกถึงเป้าหมายต่อจากนี้

จางกียง : พอถ่ายทำ Born Again เสร็จ ทั้งผมและพี่ซูฮยอก ตอนนี้ก็กำลังเตรียมตัวกับผลงานใหม่อยู่ครับ ด้วยละครหรือภาพยนตร์ที่จะให้ได้มาเจอกับแฟนๆทุกคน ก็หวังว่าจะให้ความรักและคิดถึงนักแสดงที่ชื่อจางกียงนะครับ เพราะ Born Again ก็ใกล้จะได้ออนแอร์ที่ญี่ปุ่นด้วยแล้วผมก็ตื่นเต้นฮะ หวังว่าจะให้ความรักและได้ชมกันอย่างสนุกนะครับ

 

สุดท้ายแล้ว ช่วยฝากข้อความถึงแฟนๆชาวญี่ปุ่นหน่อย

จางกียง : ได้มาทักทายแฟนชาวญี่ปุ่นแบบนี้คิดว่าเป็นเกียรติและขอบคุณมากเลยครับ ผมกับพี่ซูฮยอกตั้งใจถ่ายทำกันเต็มทีก็หวังว่าจะรับชมกันครับ และฝากแนะนำบอกต่อๆกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ